Neng omnoi
Newbie
กระทู้: 8
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2014, 08:13:17 PM » |
|
วัดตอนไม่มี tap และวัดตอนมี tap ขึ้นไดโนวัดม้าเอากราฟมาเทียบกันแค่นี้ก็รู้แล้วครับ ในกราฟคือม้าหลังติด tap ลืมวัดก่อนติด tap มาให้ดูครับ
|
|
|
|
sui
Newbie
กระทู้: 40
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2014, 04:04:58 PM » |
|
แล้วจะมีปัญหา เบาดับมั้ยครับ พี่เจ
|
|
|
|
J-Autogas
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2014, 04:49:44 PM » |
|
แล้วจะมีปัญหา เบาดับมั้ยครับ พี่เจ
Tap europegas ที่มีติดไป กับเครื่องยนต์รุ่นเดียวกับรถพี่สุ่ย ก็ปกติ ไม่มีเบาดับครับ พี่สุ่ยจะลอง tap อีกสักรอบมั้ย ของผม หากมีปัญหา ถอดออกคืนเงินเต็มจำนวนครับ
|
line ID: jautogas
|
|
|
zoml3ie
Newbie
กระทู้: 5
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 11:21:35 AM » |
|
สวัสดีครับพี่เจ ผมลูกค้าเก่าขอทราบราคา ถ้าต้องการปรับปรุงระบบเปลี่ยนหม้อต้มเป็น Tomasetto AT13 พร้อม ติดตั้ง Timming advance ครับ
|
|
|
|
kom_oo
Newbie
กระทู้: 20
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 02:48:39 PM » |
|
ใช้แก๊สมา 7 หมื่นโล เลือกว่าจะเปลี่ยนหม้อต้มใหม่ หรือติดแทป อย่างใดอย่างหนึ่ง ควรเลือกทำตัวไหนครับ เห็นผลด้านประสิทธิภาพ มากกว่ากัน แนะนำหน่อยครับ
|
|
|
|
J-Autogas
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 03:22:01 PM » |
|
แนะนำติดตั้ง TAP เห็นผลชัดเจนและคุ้มค่ากว่าครับ
ส่วนหม้อต้มยังใช้งานได้ปกติ หมั่นเช็คน้ำสัปดาห์ละครั้ง ยังใช้งานต่อเนื่องตามปกติครับ
|
line ID: jautogas
|
|
|
7GeaR
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 04:09:29 PM » |
|
สอบถามเพิ่มเติมครับพี่เจ แล้วเราจะรู้ได้ไงครับ ว่าพอติด TAP แล้ว การปรับจูนถูกต้องไม่ส่งผลกับเครื่องยนต์ในระยะยาว ในอนาคต ผมหมายถึงว่าไอองศาที่เราปรับจูนใหม่เนี่ยเราจะรู้ได้ไงว่ามันถูกต้องตามหลักวิศกรรมการออกแบบ เอามาจากไหน หรือลองผิดลองถูก หรือมีเอกสารข้อมูลอ้างอิงทางวิชาการ เพราะการปรับองศาการจุดระเบิดผมว่ามันค่อนข้างอ่อนไหวกับเครื่องยนต์ ขอบคุณพี่เจมากครับ
|
|
|
|
J-Autogas
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 05:29:31 PM » |
|
ตอนแรกก่อนที่ผมจะทดลองติดตั้ง TAP กับรถผมเอง ผมก็คิดเช่นนั้นครับ กลัวว่าไฟองศาที่ปรับ advance จะมากเกินไป จะเป็นผลเสียต่างๆ ตามที่เคยได้กล่าวไว้ก่อนหน้าที่ ตามกระทู้ต่างๆครับ
แต่จากการที่ผมได้ทดสอบติดตั้งกับรถตนเอง และทดสอบการใช้งาน ลองปรับจูน ไฟให้แก่ เพื่อดูอาการเครื่องยนต่างๆ มาสักระยะแล้วนั้น
พบว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่ สมัยนี้จะมี น๊อกเซ็นเซอร์ knok sensor ที่ทำงานร่วมกับ กล่อง ecu เครื่องยนต์ อย่างรวดเร็ว ฉับพลัน ทันทีทันใด (เหมือนการทำงานของ ออกซิเจนเซ็นเซอร์ กับ กล่อง ECU เครื่องยนต์ ยังไง ก็อย่างนั้นเลยครับ คือ หากพบไฟแก่มากเกินไป ตัวน๊อกเซ็นเซอร์ตรวจสอบพบ ก็แจ้งกล่องเครื่อง กล่องเครื่องยนต์ ก็จะทำการลดองศาไฟจุดระเบิดลงให้อัตโนมัติทันทีครับ
ดังนั้น อาการที่ว่า จูนไฟจนแก่มากไป แล้วทำให้เครื่องยนต์แขก หรือ น๊อกจนเสียหายนั้นค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยากครับ คือ ถึงแม้จะแก่มากเกินไป กล่องก็จะสั่งลดไฟลงให้อยู่ในอัตราที่ปกติ ไม่แขก
แต่ การจูน TAP หากเราปรับจูนไฟแก่มากเกินไป ก็จะทำให้เกิดอาการ วิ่งตื้น วิ่งไม่ออกอีกเหมือนกัน ดังนั้น ไฟจุดระเบิด กับเชื้อเพลิงตัวใด ตัวหนึ่ง จะมีค่าไฟ ที่เหมาะสม เพียงค่าใด ค่าหนึ่งเท่านั้นครับ
|
line ID: jautogas
|
|
|
J-Autogas
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 05:37:48 PM » |
|
และในเครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ sensor ทำงานได้เร็ว และ ไว นั้น ทางวิศวกร ปรับจูนเครื่องยนต์ ก็พยามปรับจูนการ advance ไฟจุดระเบิดให้ล่วงหน้าให้มากที่สุด เท่าที่จะมากนั้น เพื่อให้เครื่องยนต์เรียกกำลังได้ดี ได้แรงบิดได้ดี เพื่อจะได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันระดับดีนั้น
เมื่อเรานำรถมาติดตั้งแก๊ส lpg แล้ว ติดตั้ง tap เพื่อปรับจูนไฟเพิ่มนั้น บางรุ่น เช่นรถผม camry 2.5 dual vvt-i ปรับจูนไฟให้แก่มากกว่าเดิม ไม่เกิน 5 องศา หากมากกว่านี้ จะมีปัญหา ไฟเครื่องยนต์โชว์เนื่องจาก เครื่องยนต์ตรวจพบ ความผิดปกติในการทำงานของ sensor
หรือ อย่าง nissan teana ก็ปรับจูนไฟให้แก่ได้ไม่เกิน 2 องศา เพราะรถยนต์เหล่านี้ ทางโรงงาน ค่อนข้าง ปรับจูนไฟ มาให้ค่อนข้างแก่มากแล้ว
แต่อย่างในรถยนต์บางรุ่น เช่นเครื่องยนต์รุ่นเก่า เช่น crv g2 g3 accord โฉมเก่า เหล่านี้ ไฟองศาจุดระเบิดยังสามารถปรับจูนให้ advance ได้ค่อนข้างเยาะ เมื่อติดตั้งแล้ว จะให้อัตราเร่ง ที่ดี เห็นผล ชัดเจนคุ้มค่าครับ
|
line ID: jautogas
|
|
|
7GeaR
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 05:49:41 PM » |
|
แปลว่า TAP ก้ยังทำงานภายใต้ ECU ของรถอยู่ดีใช่ไหมครับ หมายถึงว่าถ้าติด TAP ไปแล้ว แล้วจูนองศามากไป ECU เดิมของรถก็จะสั่งลดไฟอัตโนมัติใช่ป่าวครับ
|
|
|
|
J-Autogas
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 05:58:30 PM » |
|
เข้าใจถูกต้องแล้วครับ TAP ที่ติดตั้งไป ก็ยังทำงานภายใต้การควบคุมดูแล ของ ECU รถอยู่เหมือนเดิม
แต่สิ่งที่ต่างคือ ไฟองศาของเครื่องยนต์เดิม ที่ปกติ ไม่สามารถจะปรับให้ advance ตัวเองให้ได้มากๆได้ เพราะคนเขียนโปรแกรมกล่อง เครื่องยนต์จะ มีการตั้ง ลิมิต การเริ่มต้นจุดระเบิด เทียบกับ sensor ตำแหน่งเพลาข้อเหวี่ยง ความเร็วรอบ โหลด ตำแหน่ง ขาคันเร่ง ได้
ถึงแม้จะมี knok sensor ตรวจสอบการน๊อกอยู่ แต่ ไม่สามารถที่จะปล่องให้องศาไฟจุดระเบิด สามารถ advance ตัวเองไปล่วงหน้ามากๆ ได้ เพราะอาจจะเกิดภาวะการทำงานผิดปกติ ของ sensor ก็ได้ ดังนั้นจึงมีการ ตั้งลิมิต การ advance ไว้
การมี tap คือ การมา หลอกเครื่องยนต์ ว่าที่ตำแหน่งเดิม ไฟจุดระเบิด ควรจะออกมาจุดที่ตำแหน่งนี้ ก็มีการหลอกให้จุดระเบิด ก่อน ตามองศาไฟที่เราจะปรับจูนครับ
ซึ่งหากการปรับจูนผิดพลาด คือ จูนไฟแก่มากไป ไฟองศาจุดระเบิด ก็จะมีการ รีทาร์ดตัวเอง จากค่า บวก เป็นค่า ลบ ให้เราเห็น ค่าได้เลย เมื่อใช้เครื่องมือ สแกนโอบีดี ทำการตรวจสอบค่าเหล่านี้ครับ
|
line ID: jautogas
|
|
|
J-Autogas
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 06:02:39 PM » |
|
ปกติค่า ignition timming จะมีค่า เป็นบวก
ยกเว้นเวลาเกียร์เปลี่ยน จะมีการ รีทาร์ดไฟ ให้ลบ หรือ ลดลงมา เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์ ไม่กระตุก ไม่กระชาก
ถ้าเราจูนไฟจนแก่มากเกินไป ค่า ignition จะเปลี่ยนเป็นค่า ลบ ให้เราเห็นเลยครับ
|
line ID: jautogas
|
|
|
7GeaR
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 06:12:45 PM » |
|
ความคิดผมนะพี่เจ อาจจะตั้งข้อสังเกตมากไปหน่อย ถือว่าแชร์ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกันนะครับ(ผมอาจคิดผิด) ถ้าเกิดว่า LPG เผ้าไหม้ได้ช้ากว่าเบนซิน แทนที่เราจะไปยุ่งกับองศาการจุดระเบิดให้มันเร็วขึ้น ทำไมเราไม่ปรับปริมาณ LPG ให้มันเผ่าไหม้ได้หมดพอดีกับน้ำมันละครับ(เข้าใจว่า OBD จัดการให้แล้ว) ยกตัวอย่างนะครับ ถ้า เราราดน้ำมัน ยาว 100 เมตร กับราด LPG 100 เมตร (สมติว่าราดได้) แล้วจุดไฟพร้อมกัน สมติน้ำมันเผาไหม้หมดที่ 1.0 ms LPG หมดที่ 1.5 ms เราก็เอาช่วงเวลาที่ 1.0 ms ของ LPG ที่เผาไหม้หมดพร้อมน้ำมันมาคิดว่าที่เวลา 1.0 เท่ากับน้ำมันนั้น LPG ใช้ปริมาณเท่าไหร่ เราก็ป้อนให้กับเครื่องเท่านั้น ผลก็น่าจะเป็นว่า ไม่ต้องไปยุ่งกับระบบองศาจุดระเบิด เพราะเริ่มจุดเวลาเดียวกับน้ำมัน และหมดเท่ากับน้ำมัน เพียงแต่ปริมาณที่ใช้น้อยกว่าน้ำมันซึ่งก็น่าจะถูกต้องเพราะ LPG ค่าออกเทนสูงกว่าน้ำมัน ตรงนี้ผมเข้าใจว่า กล่อง OBD II (ตัว S.A.S)น่าจะทำหน้าที่ตรงนี้อยู่แล้ว แต่อาจมีคนแย้งว่าถ้าให้ปริมาณ LPG เท่าน้ำมัน อาจเหมือนจ่ายแก๊สบางไปหรือป่าวทำให้เครื่องร้อน ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็ไม่ต่างจากการติด TAP เพราะการติดก็เพื่อให้เผ่าไหม้หมดในเวลาเดียวกับน้ำมัน ก็แปลว่าต้องร้อนเหมือนกัน เพียงแต่ TAP คือนำวิธีการชิงจุดระเบิดก่อน มาใช้ ซึ่งในความคิดผม ผมว่ามันใช้งานผิดสเปกจากการออกแบบเครื่องยนต์จากผู้ผลิตอ่ะครับ
|
|
|
|
J-Autogas
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 06:56:04 PM » |
|
คือตรงนี้คุณ 7GEAR อาจยังเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ครับ
ผมอธิบายใหม่อีกทีครับ
คือ สมติ น้ำมัน 1 ลิตร กับ อากาศ 14.7 ลิตร คือ สัดส่วนเชื้อเพลิงที่สมบูรณ์ตามอุดมคติ กลายเป็นสัดส่วนผสมเชื้อเพลิงที่ทดสอบมาแล้ว ว่าให้กำลังงานในการระเบิดได้เต็มที่ ระเบิดได้แรงดันมาก ให้กำลังงานมาก มีองศาการจุดระเบิดล่วงหน้าที่รอบเดินเบา ที่ 700 rpm ที่ 10 องศา ก่อนที่ลูกสูบจะเคลื่อนที่ขึ้นสุด และเกิดการเผาไหม้ได้หมดจด ได้แรงดันมากที่สุด 23 องศา หลังจากลูกสูบเริ่มเลื่อนลงแล้ว
หากจุดเร็วกว่านี้ ทำให้ลูกสูบเกิดแรงต้าน ทำให้ลูกสูบ เกิดอาการโดนแรงกระแทกกลับ เกิดการตบข้าง ทำให้เกิดเสียงแขก หรือ น๊อก ได้ยินเสียง แก๊กๆ
หากจุดช้า กว่านี้ เชื้อเพลิงยังเผาได้ไม่หมด ลูกสูบเริ่มเลื่อนลงแล้ว ไม่มีแรงดันที่ลูกสูบเต็มที่ แรงตก กำลังน้อย แรงบิดน้อย
|
line ID: jautogas
|
|
|
7GeaR
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2014, 07:05:27 PM » |
|
อ่า จัดเต็มเลยนะครับพี่เจ แล้วการติด TAP เพื่อให้มีการจุดองศาก่อนนี่ มันไม่ได้ก่อนมากจนทำให้เกิดอาการน๊อค ตามที่พี่เจบอกไว้ใช่ป่ะครับ คือยังอยู่ในช่วงที่เครื่องยนต์รับได้ใช่ป่าวครับ
แล้ว TAP ที่ร้านพี่ติดได้กับรถทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นหรือป่าวครับ CRV G3 City 2009 ติดได้ป่าวครับ
|
|
|
|
|