สอบถามเรื่องกราฟแก๊สครับคาใจมาก

[songhai]

ผมเติมเบนซิน 95 เพียวมาตลอดนะครับ

เริ่มจากผมไปจูนครั้งล่าสุดที่ร้าน วิ่งสัก 2000-3000 กราฟทับกันปกติดี จากนั้นผมปรับตัวคูณเพิ่มอย่างละ 1 สเต็บ ช่วง 5 จุดแรก แล้วลบกราฟแก๊ส
ปรากฏว่า กราฟที่สร้างขึ้นใหม่ อยู่ต่ำกว่ากราฟน้ำมันพอสมควร แต่... Long term fuel trim ติดลบครับ -7 กว่า
สรุปว่า หนาหรือบางครับ งงมาก ปรับขึ้น 3-4 step 5-7 จุดแรก  กราฟก็ยังต่ำกว่าแต่สูงขึ้นหน่อย แต่ Long term fuel trimติดลบอื้อเลยครับ

สรุปมันเกิดอะไรขึ้นครับ กราฟที่จูนดังรูปครับ

รูปแรก เดินเบา เชื้อเพลิงแก๊ส คอมแอร์ทำงาน

http://pic.free.in.th/id/ec99c7664524378ceef43353481d5ecc

รูปสอง เดินเบา เชื้อเพลิงแก๊ส คอมแอร์ไม่ทำงาน

http://pic.free.in.th/id/842616acf3973855cab4fdf2e44bfbeb

รูปสาม เดินเบา เชื้อเพลิงแก๊ส ปิดแอร์

http://pic.free.in.th/id/19b302e571b0d0e48ca1578b0fbabffc

รูปสี่ เดินเบา เชื้อเพลิงน้ำมัน ปิดแอร์

http://pic.free.in.th/id/aa7e18bae4f99ff4c76b1ef21940fbd9

รูปห้า เดินเบา เชื้อเพลิงน้ำมัน เปิดแอร์

http://pic.free.in.th/id/038d1f6e9e70c7b77a74af8919c79314


 

[J-Autogas]

อาการที่แจ้งมา น่าจะเป็นลักษณะของการ สร้างกราฟน้ำมัน  และ กราฟแก๊ส ในสภาวะ แรงดูดที่แตกต่างกัน หรือ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ คนละโหลดกัน

วิธีการจูนแบบกราฟที่ดี คือ

ในสภาวะหนึ่ง เช่น วิ่งความเร็ว 100 km/hr  ก็ควร สร้างกราฟ น้ำมัน และ กราฟแก๊ส ในสภาวะเดียวกัน   สร้างเสร็จ แล้วก็จูนแก๊ส ณ. จุดนั้นกันเลย  กราฟที่ได้ จึงจะแม่นยำครับ แต่หาก   ไม่เช่นนั้นแล้ว  กราฟน้ำมันที่เราเก็บไว้ก่อนหน้า  กับ กราฟแก๊ส ที่เพิ่งจูนไป เมื่อตอนหลัง ให้ค่าที่แตกต่างกัน หรือ เส้น คนละระดับกันได้เลย


แต่ ก็มีการจูนแก๊ส อีก สภาวะหนึ่ง  ที่ให้ผลดีเหมือนกัน แต่ ไม่ต้องไปสนใจ กราฟน้ำมัน  กราฟแก๊ส   แต่ ให้จูน และอ่าน จาก ค่า  short term  long term แทน   หากค่า  long term  shrot  term  เริ่มขยับบวก  แสดงว่า แก๊ส น้อยไป  ก็ ให้เพิ่มแก๊ส


แต่หาก ค่าเริ่ม ติด ลบ  แสดงว่า หนา   เราก็ทำการลดครับ

[J-Autogas]

ถ้าจะให้การจูน ออกมาดี  และปรับจูนได้ง่าย  ควรมีคนขับรถให้ครับ แล้วเรา ก็ปรับจูน  สังเกต ค่า  obd ไปเรื่อยๆ  ตรงไหน น้อยเรา ก็เพิ่ม  มากไป ก็ลด  ตรงนี้ เป็นการจูน ย่านทั่วไป


ต่อไป  คิกดาวน์ กดหนัก  ส่วนมาก กราฟ จะไปตกช่วงปลาย   เราก็ไปดูค่า  lamda แทนในช่วงนั้น  ว่า หนา  หรือ บางไป    ทดสอบ ครั้ง สองครั้ง  ก็ปรับจูนแล้วเสร็จ ครับ

[songhai]

แล้วแบบนี้ของผมจำเป็นต้องจูนใหม่ไหมครับ เพราะไม่อยากจูนเส้นน้ำมันใหม่อะครับ  ของผมมันหนาไปหรือบางไปครับ

หรือสรุปไม่ได้ควรจะจูนใหม่ดีกว่ารึป่าวครับ

ถามเพิ่มอีกหน่อยครับ จากที่บอกว่า การจูนแก๊ส อีก สภาวะหนึ่ง  ที่ให้ผลดีเหมือนกัน แต่ ไม่ต้องไปสนใจ กราฟน้ำมัน  กราฟแก๊ส   แต่ ให้จูน และอ่าน จาก ค่า  short term  long term แทน   หากค่า  long term  shrot  term  เริ่มขยับบวก  แสดงว่า แก๊ส น้อยไป  ก็ ให้เพิ่มแก๊ส แต่หาก ค่าเริ่ม ติด ลบ  แสดงว่า หนา   เราก็ทำการลด

เพิ่ม กับ ลด ในที่นี้ คือให้สังเกตุ จุดเขียวๆที่วิ่งไปมา ในช่วงการเร่งที่ต่างกันใช่ไหมครับ แล้วเร่งเท่าเดิมไว้สักพักเพื่อให้จุดเขียวๆอยู่แถวๆเดิมและสังเกตุค่า long term  shrot  term สักประมาณ 10-30 วิมันจะเปลี่ยน ว่าจะขยับไปลบ หรือ บวก หากลบ แสดงว่าหนาไป ผมก็ลดตัวคูณแถวๆจุดเขียวลงมาที่ละสเต็ปแล้วสังเกตุดูเรื่อยๆจนกว่าจะใกล้ 0 ประมาณนี้ใช่ไหมครับ  ผมเข้าใจถูกรึป่าว แล้วหากทำวิธีนี้ผมไม่ต้อง วิ่งกราฟ เก็บกราฟน้ำมันใหม่ใช่ไหมครับ แค่จูนเฉพาะตอนขับแก๊สอย่างเดียวใช่ไหมครับ  ขอบคุณครับ

[J-Autogas]

หากค่า long term เป็น ลบ  แสดงว่า แก๊สหนา

หากค่า long term เป็น บวก แสดงว่า บาง

ปกติ คือ เข้าไกล้ 0  หรือ 0  หรือ รถบางรุ่น ต้องสังเกต จากตอนที่เป็นน้ำมัน ว่า น้ำมันเป็นเท่าไหร่   แก๊ส  ก็จูนให้เท่ากับ น้ำมันเดิมครับ


จากที่แจ้งมา แนะนำ จูนใหม่  ส่วนเส้นน้ำมันเดิม  ก็ไม่ต้องเก็บไว้    ลบออก แล้ว เก็บใหม่ ดีกว่าครับ

[songhai]

อ่อครับ ค่าแลมด้า จะดูว่าหนาหรือบางดูยังไงนะครับ

มันมีค่าตั้งแต่ 0-0.8 V ใช่ไหมครับ  Mazda2 นะครับ

แล้วสังเกตุยังไงบางครับ

[J-Autogas]

0 บาง

0.8 หนา   0.9  หนาขึ้นมาอีก   1.0 หนามาก อาจท่วม ทำให้วิ่งไม่ออก กำลังตกได้ครับ

[songhai]

แล้วเท่าไหร่ ถึงพอดีคับ ถ้า0 บาง 0.8 หนา

[J-Autogas]

ค่า lamda วิ่งไป วิ่งมาตลอด ไม่อยู่นิ่งอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ ครับ


หลักการ


หากเริ่มหนา   กล่องจะเริ่มลด

พอลดมากๆ ก็กลายเป็นบาง   กล่องก็เริ่มเพิ่มอีก

สรุป ทำงาน วนไป วนมาอย่างนี้เป็นเรื่องปกติ


เราทำได้ ให้ดี คือ จูนให้แก๊ส ให้ค่า   shot  term  long term  ไม่ขยับ หนีจากค่า น้ำมัน เดิม ก็ถือว่า ทำได้เยี่ยม แล้วครับ

[songhai]

ถ้าอย่างนั้นที่บอกว่า การจูนต่อไปหลังจากจูนสภาวะปกติ  คิกดาวน์ กดหนัก  ส่วนมาก กราฟ จะไปตกช่วงปลาย   เราก็ไปดูค่า  lamda แทนในช่วงนั้น  ว่า หนา  หรือ บางไป    ทดสอบ ครั้ง สองครั้ง  ก็ปรับจูนแล้วเสร็จ ครับ

คือให้ดูค่า แลมด้า ยังไงครับ จะให้ดูว่ามันวิ่งขึ้นลงปกติมั้ย หากค้าง 0.8-1.0 ไม่ลงไปถึง0 แสดงว่าหนา  ให้ปรับตัวคูณช่วงท้ายที่จุดเขียวๆวิ่งบนกราฟ ลงหรือเปล่าครับ

หากค้างที่ 0 ถึง0.5 แสดงว่า บาง แบบนี้รึป่าวครับ

[J-Autogas]

ลืมแจ้งไปอย่าง

การขับคิกดาวน์ แบบอัดๆ  คนคิกดาวน์มิด  เครื่องยนต์จะเข้าโหมดการทำงาน open loop  คือ จ่ายเชื้อเพลิงหนาสุด โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งนั้น  ระบบ short  tem  long  term เดิมเป็นอย่างไร  ความสมบูรณ์เป็นอย่างไร  กล่องเครื่องยนต์ไม่สนใจ 

สนใจอย่างเดียว  เชื้อเพลิงต้องหนาสุด  ในสัดส่วนที่ไม่ท่วม จนทำให้กำลังตก


ดังนั้น  สัดส่วน แลมด้า ช่วงนั้นควรเป็น  0.8-0.9 1.0 ประมาณนี้  หากหนามากไป ก็จะอืด เราก็ต้อง จูนลดแก๊สลง เพื่อให้หนา พอดีๆ ครับ

[J-Autogas]

แต่ ถ้าเชื้อเพลิงแก๊ส บาง ค่า lamda โชว์  0 หรือค่าต่ำ แน่นอน ครับ


แต่ ส่วนมาก หากใช้ อุปกรณ์แก๊ส เกินกำลังของเครื่องยนต์ไว้เยาะ ส่วนมาก  ไม่บาง  จะหนาเป็นส่วนมาก ดังนั้นจำเป็นต้องลด แทนครับ

[songhai]

ผมเพิ่งสังเกตุ ค่าแลมด้าในรูปภาพที่ผมอัพตอนใช้แก๊ส 0.07-0.12 แสดงว่าแก๊สบางหรอครับ  หรือว่าค่าแลมด้าไว้ดูตอนคลิกดาวน์หรือตอนเร่งแรงๆอย่างเดียวครับ

[J-Autogas]

ช่วงขับปกติ ค่า lamda จะแกว่งไป  แกว่งมา   บาง  หนา  สลับกันไปเรื่อยๆ   หรือ  สังเกต ค่า จาก ค่าตอนเป็นน้ำมัน เปรียบเทียบกันดูก็ได้ครับ  ลักษณะของเครื่องนต์ บางรุ่นอาจไม่เหมือนกัน รถยนต์บางรุ่น อาจเน้น จ่ายน้ำมันบาง   แก๊ส เวลาจ่าย  ก็จะบางตาม แก้ไข อะไรไม่ได้  เพราะกล่อง ecu รถยนต์เป็นตัวสั่ง


ส่วน คิกดาวน์  full load  หนาแน่นอน เป็นเรื่องปกติ ครับ   

[songhai]

ของผม mazda2 ครับ  ถ้าอย่างนั้นที่บอกว่ารถบางรุ่นจ่ายน้ำมันบาง จ่ายแก๊สก็จะบางด้วยแก้อะไรไม่ได้ แบบนั้น วาล์วก็ยันเร็วสิครับ

แล้วในเมื่อแก๊สสามารถปรับจูนได้หากเรารู้ว่าบาง เราปรับให้แก๊สจ่ายหนากว่าน้ำมันที่จ่ายบาง กลายเป็นจ่ายพอดีไม่ได้หรอครับ

แล้วหากสังเกตุตอนใช้น้ำมันถ้ารถจ่านน้ำมันบาง ค่าจะแกว่งในช่วง 0-0.6 ไปๆ-มาๆ เรื่อยๆหรอครับ ผมเข้าใจถูกรึป่าวครับ