logo-jauto
หน้าแรกเกี่ยวกับเราราคาติิดตั้งแก๊สรถตัวอย่างราคาอุปกรณ์สาระน่ารู้webboardสอบถาม/แผนที่
เจ ออร์โต้แก๊สFacebook

   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้า: [1]   ลงล่าง
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไทยดีทรอยต์แห่งเอเชีย(ไทยรัฐ หมายเหตุประเทศไทย ลมเปลี่ยนทิศ )  (อ่าน 2836 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2013, 08:49:18 AM »


http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/359239


สัปดาห์ที่แล้ว “เมืองดีทรอยต์” รัฐมิชิแกน สหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นเมืองผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก ยื่นขอล้มละลายต่อศาล เพราะไม่มีเงินไปชำระหนี้ 15,000 ล้านดอลลาร์ แม้ศาลจะขอให้ถอนคำร้อง เพราะไปกระทบต่อกองทุนบำเหน็จบำนาญสองแห่งที่ไม่ยอมรับในเรื่องนี้ ในที่สุดก็ไปยื่นขอล้มละลายต่อศาลล้มละลายกลาง

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ เมืองดีทรอยต์ เคยเจริญรุ่งเรืองสุดขีด แต่เมื่อ อุตสาหกรรมรถยนต์ เริ่มถอนตัวออกไปจากเมืองนี้ ทุกอย่างก็เปลี่ยน พลเมืองลดจาก 1.8 ล้านคน เหลือ 7 แสนคน อาคารร้างในเมืองมีถึง 78,000 แห่ง อาชญากรรมเต็มเมืองจนติดอันดับ 1 ในสหรัฐฯ

วันนี้ต้องถือว่า “เมืองดีทรอยต์แห่งสหรัฐฯ” ได้ “ตาย” ไปแล้ว

แต่ “เมืองดีทรอยต์แห่งเอเชีย” หรือ “ประเทศไทย” กำลังเกิดขึ้นมาแทนที่ ผมก็ได้แต่หวังว่าในอนาคต “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” จะไม่ประสบชะตากรรมเดียวกับ “เมืองดีทรอยต์สหรัฐฯ” เมื่ออุตสาหกรรมรถยนต์จะย้ายฐานผลิตไปสู่ประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน

สองวันก่อน คุณเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย พูดถึงอนาคตโตโยต้าในงานสัมมนาว่า โตโยต้าวางกลยุทธ์ให้ภูมิภาคเอเชียนเป็นบ้านหลังที่ 2 และประเทศไทย จะเป็นฐานอาร์แอนด์ดี (การวิจัยและพัฒนา) หลักของภูมิภาค

การผลิตรถยนต์ในปัจจุบันกว่า 50% อยู่ในเอเชีย เขาคาดว่าปี 2558 สัดส่วนยอดขายรถยนต์ในเอเชียจะขึ้นมาที่ 50% เท่ากับยอดขายในตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐฯรวมกัน

คุณทานาดะ บอกว่า วันนี้ตลาดรถยนต์ไทยอยู่ในอันดับที่ 4 รองจาก สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และ จีน แต่ในอนาคตโตโยต้าไม่ได้มองแค่ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย แต่ยังเห็นลู่ทางการขยายธุรกิจในเวียดนาม ลาว กัมพูชา เพื่อสร้างฐานผลิตซัพพลายเชนในอนาคตด้วย

คุณสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงศ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า  5 เดือนแรกปีนี้ ไทยยังครองส่วนแบ่งการผลิตรถยนต์ในอาเซียนสูงถึง 59% อินโดนีเซีย มีส่วนแบ่ง 25% มาเลเซีย 13% เวียดนามและฟิลิปปินส์ 2% ตอนนี้การผลิตรถยนต์ในไทยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 8-9 หมื่นคัน ภายใน 10 ปีนี้ ไทยน่าจะยังเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์มากกว่า 50% และคาดว่าไทยจะผลิตรถยนต์ได้ถึง 3 ล้านคันในปี 2560 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า

อุตสาหกรรมรถยนต์ในเมืองไทยวันนี้ ต้องถือว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองสุดๆ ไม่แพ้ยุครุ่งเรืองของเมืองดีทรอยต์ในอดีต และเมื่อ 10 ชาติอาเซียน รวมตัวกันเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในอีกสองปีข้างหน้า ฐานของตลาดรถยนต์ก็ยิ่งขยายตัวใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะตลาดเพื่อนบ้านที่อยู่ติดไทย เขมร ลาว พม่า เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ที่มีประชากรรวมกันเกือบ 200 ล้านคน ถ้ารวมตลาดไทยด้วยก็ 270 กว่าล้านคน ถือเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่มากทีเดียว

เมื่อบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นมองไทยเป็นศูนย์กลาง ผมจึงไม่แปลกใจที่มีบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากญี่ปุ่นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอีขนาดใหญ่ เดินพาเหรดเข้ามาลงทุนในเมืองไทย เพื่อเป็นซัพพลายเชนให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยและในภูมิภาค แถมยังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ไม่ต้องเสียภาษีทุกอย่าง ทั้งภาษีเครื่องจักรและภาษีเงินได้ ท่ามกลางเสียงร้องอันแหบแห้งของผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย ที่กำลังถูกรุกจนที่ยืนแคบลงไปทุกที

ผมไม่รู้ บีโอไอเมืองไทย ส่งเสริมการลงทุนแบบไหน อุตสาหกรรมไทยจึงไม่เคยโต ไม่เคยยืนบนขาของตนเองได้ มีแต่ อุตสาหกรรมต่างชาติ ที่ได้รับการส่งเสริมกลับโตเอาๆ จนอุตสาหกรรมไทยไม่มีที่ยืน ทั้งที่เป็นอุตสาหกรรมเดียวกัน

ผิดกับ ไต้หวัน เกาหลีใต้ หรือเพื่อนบ้านไทยอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ ที่ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมอะไรแล้ว คนของเขามีแต่ได้กับได้ เพราะ เงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนที่เอื้อการส่งถ่ายความรู้และเทคโนโลยีให้กับคนในประเทศ มากกว่าเอื้อคนต่างประเทศอย่างไทย ถ้าบีโอไอไทยยังเป็นอย่างนี้ต่อไป อนาคตของ “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” อาจต้องน้ำตาตกเหมือน “ดีทรอยต์แห่งอเมริกา”  ก็เป็นได้ ถ้าไม่แก้ไข “เป้าหมาย”ของการส่งเสริมการลงทุน ให้เกิดความยั่งยืนแก่คนไทยและประเทศไทย ไม่ใช่เห็นแก่เงินลงทุนเพียงอย่างเดียว.


“ลม เปลี่ยนทิศ”
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
J-Autogas
Administrator
Hero Member
*****
กระทู้: 10693



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2013, 08:58:04 AM »

อ่าน 2 ย่อหน้าแรก รู้สึก ว่าประเทศไทย ไม่ธรรมดา  ขายรถในประเทศได้เยาะ  ผลิตได้เยาะ  และ ผลิตเยาะขึ้นทุกปี


แต่ พออ่าน ย่อหน้าสุดท้าย  เกี่ยวกับ การส่งเสริมการลงทุนในประเทศ  BOI  กลับไม่ได้ใช้ โอกาสที่กำลังซื้อในประเทศ มียอดสูง และ สร้างความได้เปรียบให้กับ sme ไทย  อย่างน้อย การผลิตชิ้นส่วนป้อน โรงงานรถยนต์ ก็ควร เป็น sme ไทย ได้เปรียบ กว่า sme ต่างชาติ     หากให้ sme ไทย  กับ ต่างชาติ   แข่งกันเอง  ไม่นาน sme ไทย ก็เสียเปรียบ และตายไปจากตลาด


วันหน้าเกิดรถยนต์ในไทย ขายไม่ดี  ที่แน่ๆ รถเริ่มขายไม่ดีแล้ว เพราะทุกวันนี้รถยนต์เต็มถนน  แทบจะไม่มีที่จะให้รถวิ่งแล้ว   ต่อไปประเทศเกิดใหม่  อย่าง เวียดนาม  ลาว  พม่า  ยอดขายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โรงงาน ประกอบรถ   โรงงาน ผลิตชิ้นส่วน อาจย้ายไปที่ประเทศอื่น ก็ได้   แล้ว วันนั้น  เมืองไทยเหลืออะไร

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

line ID: jautogas
ArtColo
Newbie
*
กระทู้: 19


« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2013, 06:15:26 PM »

ขอบคุณครับพี่ บทความดีๆ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF DK THEME: deruni
Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!

J AUTOGAS

34/38 ซ.แจ้งวัฒนะ 43 หมู่ที่1 ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

โทร 02-5744-313  เปิดบริการ จันทร์-เสาร์ 8.00-17.00น.

สายด่วนลูกค้าทางร้าน

โทรได้ตลอดไม่เว้นวันหยุด

phone084